วิธีแก้ไขไอโฟนไม่แจ้งเตือน iOS18 /17 ในการตั้งค่า

ในการประชุม WWDC 2022 iOS 18/17 เบต้าถูกเผยแพร่ แต่มีผู้ใช้หลายคนพบปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือน iOS 18/17 และยังคงเห็นว่ารุ่นล่าสุดคือ iOS 16/15 หากคุณประสบปัญหานี้ บทความนี้จะแนะนำวิธีแก้ไขเพื่อให้คุณสามารถอัปเดตเป็น iOS 18/17 และเพลิดเพลินกับฟีเจอร์ใหม่ได้

• ส่วนที่ 1: ทำไมการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือน
• ส่วนที่ 2: 6 วิธีทั่วไปในการแก้ไขหากการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือน
• วิธีที่ 1: ตรวจสอบความเข้ากันได้ของ iPhone
• วิธีที่ 2: ตรวจสอบสถานะระบบของ Apple
• วิธีที่ 3: ลบโปรไฟล์ iOS18/17 Beta
• วิธีที่ 4: ตรวจสอบและรีเซตการตั้งค่าเครือข่าย
• วิธีที่ 5: รีบูตอุปกรณ์ iOS ของคุณ
• วิธีที่ 6: ใช้ iTunes/Finder เพื่อรับการอัพเดท iOS18/17
• วิธีที่ 7: อัพเดท iOS18/17 ด้วย reiboot

ส่วนที่ 1: ทำไมการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือน

หากคุณสงสัยว่าทำไม iPhone ของคุณถึงiOS18/17 ไม่แจ้งเตือน และคุณจะทำการอัพเดท iOS18/17 บน iPhone ของคุณได้อย่างไร บทความส่วนนี้จะครอบคลุมทุกเรื่อง

อาจมีสาเหตุหลายประการสำหรับปัญหานี้ คุณอาจไม่ได้ติดตั้งโปรไฟล์เบต้าที่ถูกต้อง การตั้งค่าเครือข่ายของคุณอาจผิดพลาด iPhone ของคุณอาจไม่รองรับ และอื่นๆ นี่คือรายการสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่คุณควรรู้

• iPhone ของคุณไม่รองรับ และจะไม่ได้รับการอัพเดท iOS18/17
• คุณยังไม่ได้ติดตั้งโปรไฟล์เบต้าของ iOS18/17 หรือไม่ได้ติดตั้งโปรไฟล์ที่ถูกต้อง
• มีบางอย่างผิดปกติกับการตั้งค่าเครือข่ายของคุณ
• มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับระบบ iOS ของคุณ

ตอนนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าทำไมการอัพเดทอาจไม่ปรากฏขึ้น เรามาพูดถึงวิธีแก้ไขปัญหาการอัพเดท iOS18/17 ที่ไม่แสดงบน iPhone ของคุณกัน

ส่วนที่ 2: 6 วิธีทั่วไปในการแก้ไขหากการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือน

หากคุณประสบปัญหาที่ iPhone ของคุณไม่แจ้งเตือนในการอัพเดทซอฟต์แวร์ iOS18/17 อาจมีหลายวิธีในการจัดการกับปัญหานั้น เรามาดูวิธีการแก้ไขปัญหาหลายวิธีเพื่อแก้ไขกัน

วิธีที่ 1: ตรวจสอบความเข้ากันได้ของ iPhone

หากการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือนในการตั้งค่า อาจเป็นเพราะการอัพเดท iOS ไม่พร้อมใช้งานสำหรับ iPhone รุ่นของคุณ เพราะว่าสำหรับระบบ iOS18/17 นี้ Apple ได้โมเดลลบหลายรุ่นออกจากรายการอุปกรณ์ที่รองรับ รายการด้านล่างนี้คือรายการอุปกรณ์ทั้งหมดที่จะรองรับ iOS18/17

• iPhone 8 และ 8 Plus
• iPhone X, XR, XS and XS Max
• iPhone 11, 11 Pro, 11 Pro Max
• iPhone 12, 12 Pro, 12 Pro Max
• iPhone 13, 13 Pro, 13 Pro Max
• iPhone SE 2nd-Gen and 3rd-Gen

หากคุณมี iPhone 6, 6s, 7, 8s หรือ SE 1st-Gen คุณจะไม่ได้รับการอัพเดท iOS18/17

วิธีที่ 2: ตรวจสอบสถานะระบบของ Apple

หาก iPhone ที่คุณใช้อยู่ในรายการอุปกรณ์ที่รองรับ iOS18/17 แต่คุณยังคงประสบปัญหาการอัพเดท iOS18/17 ไม่แจ้งเตือน คุณสามารถลองตรวจสอบสถานะระบบของ Apple สำหรับบริการได้ เมื่อเซิร์ฟเวอร์ Apple.com ไม่ทำงานหรือมีปัญหาด้านบริการ iPhone ของคุณจะไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ Apple ส่งผลให้ iOS18/17 ไม่ปรากฏในตัวเลือกการอัพเดทซอฟต์แวร์

หากต้องการตรวจสอบว่าระบบของ Apple ทำงานได้ดีหรือไม่ คุณสามารถไปที่หน้าสถานะระบบฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อตรวจสอบดู หากบริการทั้งหมดถูกทำเครื่องหมายเป็นสีเขียว แสดงว่าสถานะของระบบนั้นใช้งานได้ หากเซิร์ฟเวอร์ Apple หยุดทำงานและใช้งานไม่ได้ชั่วคราว คุณจะต้องรอให้เซิร์ฟเวอร์กลับมาออนไลน์อีกครั้ง

วิธีที่ 3: ลบโปรไฟล์ iOS18/17 Beta

หากการอัพเดท iOS18/17 ไม่ปรากฏขึ้นแม้แต่ตอนนี้ อาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้ลบโปรไฟล์เบต้าก่อนหน้าสำหรับ iOS18/17 หากต้องการรับการอัพเดท iOS18/17 คุณจะต้องลบโปรไฟล์เบต้าสำหรับนักพัฒนา iOS18/17 และติดตั้งเวอร์ชัน iOS18/17 ใหม่บน iPhone ของคุณ

วิธีลบโปรไฟล์เบต้าเก่ามีดังนี้

• เปิดการตั้งค่า > ทั่วไป > VPN และการจัดการอุปกรณ์

• เลือกโปรไฟล์ iOS18/17 เบต้า แล้วกด ลบโปรไฟล์

  
• รีสตาร์ทโทรศัพท์

ทีนี้ ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > การอัพเดทซอฟต์แวร์ เพื่อดาวน์โหลดการอัพเดท iOS ใหม่โดยที่ปัญหาควรจะหายไป

วิธีที่ 4: ตรวจสอบและรีเซตการตั้งค่าเครือข่าย

การอัพเดท iOS ไม่แสดงในการตั้งค่าแม้ว่าคุณจะลบโปรไฟล์เบต้าเก่าหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น อาจมีบางอย่างผิดปกติกับการตั้งค่าเครือข่ายของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณใช้งานได้ดี หากไม่เป็นอย่างนั้น ให้ลองใช้เครือข่ายอื่นหรือลองรีเซตการตั้งค่าเครือข่ายบน iPhone ของคุณ

คุณสามารถรีเซตการตั้งค่าเครือข่ายได้โดยทำตามขั้นตอนต่างๆ

• เปิดการตั้งค่าบน iPhone ของคุณ

• ไปที่ ทั่วไป > โอนหรือรีเซต iPhone > รีเซต > รีเซตการตั้งค่าเครือข่าย

  
• ใส่รหัสผ่านและแตะที่รีเซตเพื่อยืนยัน

วิธีที่ 5: รีบูตอุปกรณ์ iOS ของคุณ

ยังคงไม่ได้รับการอัพเดท iOS18/17 แม้แต่ในตอนนี้? เพียงลองรีสตาร์ท iPhone ของคุณ โดยทำตามขั้นตอนด้านล่าง

• กดปุ่มด้านข้างและปุ่มเพิ่มระดับเสียงค้างไว้พร้อมกัน
• เลื่อนตัวเลื่อนไปทางขวาเพื่อปิด iPhone ของคุณ
• รอ 30 วินาที

• รีบูตอุปกรณ์โดยกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกระทั่งโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

  

วิธีที่ 6: ใช้ iTunes/Finder เพื่อรับการอัพเดท iOS18/17

iTune จะมีประโยชน์เมื่อคุณเผชิญกับปัญหาการอัพเดท iOS18/17 ที่แจ้งเตือน คุณสามารถลองรับการอัพเดท iOS18/17 ผ่าน iTunes จากคอมพิวเตอร์ Windows หรือจาก Finder บน Mac ก็ได้

นี่คือวิธีรับการอัพเดท iOS18/17 ด้วย iTunes หรือ Finder

• ดาวน์โหลดและตั้งค่า iTunes เวอร์ชันล่าสุดบนคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณมี Mac ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป
• เชื่อมต่อ iPhone ของคุณกับพีซีที่ใช้ Windows หรือ Mac แล้วเลือก "เชื่อถือคอมพิวเตอร์เครื่องนี้"

• บน Windows ให้เปิด iTunes แล้วเลือก iPhone ของคุณ จากนั้นคลิกที่ สรุป และเลือก ตรวจสอบการอัพเดทที่นั่น เพื่อติดตั้งการอัพเดท iOS18/17

  

  บน Mac ให้เปิด Finder เลือกอุปกรณ์ของคุณในแถบด้านข้าง Finder คลิกที่ทั่วไป ในแถบปุ่ม จากนั้นเลือกตรวจหาการอัพเดทเพื่อติดตั้งการอัพเดท iOS18/17

  

วิธีที่ 7: อัพเดท iOS18/17 ด้วย reiboot

หากวิธีปกติไม่สามารถช่วยได้ ลองใช้เครื่องมือแก้ปัญหาซอฟต์แวร์ Tenorshare ReiBoot ที่สามารถช่วยแก้ปัญหา iOS 16 ไม่แจ้งเตือนการอัปเดตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ดาวน์โหลดและติดตั้ง Tenorshare ReiBoot เวอร์ชันล่าสุดบน Win หรือ Mac ของคุณ

• เปิด ReiBoot โดยใช้แถบค้นหาเริ่มต้นของระบบ เชื่อมต่อ iPhone ของคุณกับคอมพิวเตอร์แล้วคลิก "เริ่ม" จากหน้าจอหลัก

  



• ในหน้าต่อไปนี้ ให้เลือก "การซ่อมแซมมาตรฐาน" เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูล อย่าลืมอ่านคำแนะนำทั้งหมด

  

• ระบบจะแจ้งให้คุณดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ล่าสุด คลิก "ดาวน์โหลด"

  

• เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้กด "เริ่มการซ่อมแซมมาตรฐาน"

  

• รอให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ และก็เรียบร้อยแล้ว!

  

ทีนี้ ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > การอัพเดทซอฟต์แวร์ คุณควรจะเห็นการอัพเดท iOS18/17 แล้วตอนนี้

สรุป

ไม่ว่าคุณจะประสบปัญหาใดกับ iOS 18/17 Tenorshare ReiBoot เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณแก้ไขได้อย่างง่ายดาย ลองใช้วันนี้!