iOS 19 Beta vs iOS 18: มีอะไรใหม่ และอะไรดีกว่า?

Part 1. ภาพรวม: iOS 19 Beta vs iOS 18 แบบรวดเร็ว

ย้อนดู iOS 18 แบบสั้นๆ: iOS 18 มาพร้อมการอัปเกรดที่ชาญฉลาดหลายอย่าง เช่น ฟีเจอร์ Apple Intelligence, แอป Passwords ใหม่, การส่งข้อความผ่านดาวเทียม และการปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ระบบนี้มีความเสถียร ใช้งานได้ดี และเปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้ว นอกจากนี้ Apple ยังได้เปิดตัว iOS 18.5 beta ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย เช่น การอัปเดตแอป Mail

ส่องฟีเจอร์ iOS 19 Beta: iOS 19 beta กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าจะยกระดับ AI ให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น พร้อมการปรับแต่งส่วนตัวที่ลึกซึ้งและประสิทธิภาพของระบบที่ดียิ่งขึ้น แม้รายละเอียดจะยังไม่เปิดเผยทั้งหมด แต่ก็ได้รับความสนใจจากนักพัฒนาและสายเทคโนโลยีแล้ว

ใครควรอัปเกรด:

• สายเทคโนโลยีหรือนักพัฒนาที่ชอบทดสอบฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร
• ผู้ใช้ที่ไม่กังวลเรื่องบั๊กหรือปัญหาด้านประสิทธิภาพ

ใครควรรอ:

• ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการระบบเสถียรและลื่นไหล
• คนที่ใช้ iPhone เพื่อการทำงานหรือภารกิจสำคัญ

Part 2. iOS 19 Beta vs iOS 18 ด้านประสิทธิภาพและความเร็ว

ความเร็วของ iOS 19 Beta เทียบกับ iOS 18

iOS 18: เพิ่มความเร็วในการเปิดแอปเมื่อเทียบกับ iOS 17 เช่น Safari และ Instagram เปิดเร็วขึ้นประมาณ 15–20%

iOS 19 Beta: แม้จะยังไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจง แต่คาดว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เปิดแอปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

การตอบสนองขณะใช้งานหลายแอปพร้อมกัน

iOS 18: รองรับการสลับแอปได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น

iOS 19 Beta: คาดว่าจะเพิ่มฟีเจอร์มัลติทาสก์ใหม่ เช่น การแบ่งหน้าจอ ช่วยให้ใช้งานสะดวกและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

ความลื่นไหลของระบบและความร้อนของเครื่อง

iOS 18: ผู้ใช้บางรายรายงานว่าเครื่องร้อนขึ้นขณะใช้งานหนักในเวอร์ชันเบต้า

iOS 19 Beta: คาดว่าจะมีการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ให้การใช้งานลื่นไหลและลดความร้อนของเครื่อง

Part 3. อายุแบตเตอรี่ iOS 19 Beta เทียบกับ iOS 18

เมื่อพูดถึงอายุแบตเตอรี่ ความแตกต่างระหว่าง iOS 19 beta กับ iOS 18 เป็นสิ่งที่ผู้ใช้จะสังเกตเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการใช้งานในชีวิตประจำวัน

การเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ใน iOS 19 Beta

iOS 19 beta มาพร้อมการปรับปรุงหลายอย่างที่เน้นการยืดอายุแบตเตอรี่ เช่น การจัดการกิจกรรมเบื้องหลังที่ดีขึ้น และการใช้ทรัพยากรของระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์อย่าง Auto-Brightness และการชาร์จแบตเตอรี่ที่ปรับให้เหมาะสมเพื่อช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้อีกด้วย

การเปรียบเทียบโหมดสแตนด์บายกับการใช้งานหนัก

โหมดสแตนด์บาย: ใน iOS 18 ผู้ใช้บางรายรายงานว่าแบตเตอรี่หมดลงมากถึง 50% ในขณะไม่ได้ใช้งานตลอดคืน iOS 19 beta ตั้งเป้าที่จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการลดกระบวนการเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นในช่วงเวลาที่เครื่องอยู่เฉย ๆ

การใช้งานหนัก: ทั้ง iOS 19 beta และ iOS 18 สามารถประสบปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วในขณะทำงานหนัก อย่างไรก็ตาม iOS 19 beta คาดว่าจะจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้น ทำให้การใช้งานหนักมีความเสถียรมากขึ้น

แบตเตอรี่หมดเร็วและเครื่องร้อน

ผู้ใช้บางคนของ iOS 18 รายงานปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วและเครื่องร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการอัปเดต iOS 19 beta ถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ แต่ก็ยังควรระวังเพราะเวอร์ชันเบต้ายังคงอาจมีบั๊ก ผู้ใช้ควรสังเกตประสิทธิภาพเครื่องและรายงานปัญหาที่พบระหว่างช่วงทดสอบเบต้า

Part 4. ความเสถียรและบั๊กของ iOS 19 Beta เทียบกับ iOS 18

ความเสถียรทั่วไปของ iOS 18

iOS 18 โดยรวมมีความเสถียรหลังจากการปล่อยอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางคนรายงานปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วและเครื่องร้อนเป็นบางครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังอัปเดตใหญ่เนื่องจากระบบต้องจัดเรียงไฟล์และแอปพลิเคชันปรับตัวให้เหมาะสมกับซอฟต์แวร์ใหม่

บั๊กและข้อผิดพลาดที่ทราบใน iOS 19 Beta

เหมือนกับเวอร์ชันเบต้าอื่น ๆ iOS 19 beta มีบั๊กและข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้รายงาน เช่น แบตเตอรี่หมดเร็ว แอปเด้งออก และปัญหาการเชื่อมต่อ โดยภาพรวมยังเห็นว่า Apple ยังต้องปรับปรุงแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต่อไป

iOS 19 Beta ปลอดภัยสำหรับการใช้งานประจำวันหรือไม่?

ไม่แนะนำให้ติดตั้ง iOS 19 beta บนอุปกรณ์หลัก เพราะเวอร์ชันเบต้าอาจมีบั๊กและปัญหาความเสถียรที่ส่งผลต่อการใช้งานประจำวัน ควรติดตั้งบนอุปกรณ์สำรองจะปลอดภัยกว่า

Part 5. ฟีเจอร์ใหม่: ความแตกต่างใน iOS 19

iOS 19 กำลังจะเป็นการอัปเดตที่สำคัญ มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นและการปรับปรุงมากมายเมื่อเทียบกับ iOS 18 จาก รีวิว iOS 19 beta เบื้องต้น นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้สามารถคาดหวังได้:

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 19

Siri ที่พัฒนาขึ้นด้วยความชาญฉลาดจาก Apple

Apple มีแผนอัปเกรด Siri ด้วยความสามารถ AI ขั้นสูง เพื่อให้ตอบสนองได้อย่างเป็นส่วนตัวและเข้าใจบริบทมากขึ้น รวมถึงสามารถจัดการงานซับซ้อน เช่น แก้ไขและส่งภาพถ่ายผ่านคำสั่งเสียง และเชื่อมต่อกับแอป iPhone อย่างลึกซึ้งผ่าน App Intents

ฟีเจอร์แปลภาษาสด

iOS 19 คาดว่าจะเปิดตัวการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ใช้ AirPods ได้รับประโยชน์จากการแปลขณะเดินทาง เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารข้ามภาษา

ดีไซน์ใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS

มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS ซึ่งรวมถึงรูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูเหมือนแก้ว ไอคอนแอปที่ออกแบบใหม่ การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลขึ้น และการปรับแต่ง Control Center กับแอป Settings

บันทึกวิดีโอด้วยกล้องคู่

สำหรับ iPhone 17 Pro รุ่นใหม่ อาจมีฟีเจอร์บันทึกวิดีโอพร้อมกันจากกล้องหน้าและกล้องหลัง เพื่อเพิ่มความสร้างสรรค์สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์

มัลติทาสก์และแท็บสไตล์ Dock ที่ดีขึ้น

iOS 19 อาจเพิ่มอินเทอร์เฟซแท็บแบบ Dock ในแอปพื้นฐาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและทำให้การนำทางสะดวกยิ่งขึ้น

แม้ว่า iOS 19 จะมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็ต้องทราบว่าเวอร์ชันเบต้าอาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพในบางครั้ง โดยเบื้องต้นพบว่า iOS 19 beta อาจเจอปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วและแอปเด้ง

บทสรุป: ควรอัปเกรดเป็น iOS 19 Beta หรือไม่?

สรุป iOS 19 beta เทียบกับ iOS 18

• ประสิทธิภาพ & ความเร็ว: iOS 18 เสถียรกว่าและเร็วกว่าเล็กน้อยโดยรวม ในขณะที่ iOS 19 beta ยังมีอาการหน่วงและแอปเด้งเป็นบางครั้ง
• อายุแบตเตอรี่: iOS 18 ทำงานได้ดีกว่า โดยเฉพาะการใช้งานหนัก iOS 19 beta มีแนวโน้มแบตหมดเร็วและเครื่องร้อน
• ความเสถียร & บั๊ก: iOS 18 ใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือในทุกวัน ส่วน iOS 19 beta ยังมีบั๊กที่รู้จักและอาจยังไม่เสถียรเต็มที่
• ฟีเจอร์ใหม่: iOS 19 มาพร้อมฟีเจอร์เจ๋ง ๆ เช่น Siri ที่ฉลาดขึ้น การแปลภาษาสด และดีไซน์ใหม่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีล่าสุด

เคล็ดลับพิเศษ: ใช้ ReiBoot เพื่ออัปเกรดหรือดาวน์เกรด iOS ได้อย่างง่ายดาย

ถ้าคุณประสบปัญหาในการติดตั้ง iOS 19 beta หรืออยากกลับไปใช้ iOS 18 Tenorshare ReiBoot จะช่วยให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นมาก เป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้ ช่วยให้อัปเกรดหรือดาวน์เกรด iPhone ของคุณได้โดยไม่ต้องใช้ iTunes หรือ Finder และไม่สูญเสียข้อมูล

ไม่ว่าการติดตั้งจะล้มเหลว เครื่องค้าง หรือคุณแค่อยากเปลี่ยนเวอร์ชัน ReiBoot ก็จัดการได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญทางเทคนิคที่เจอข้อผิดพลาดหรือบั๊กและต้องการวิธีแก้ไขที่ปลอดภัยและรวดเร็ว ไม่มีความเครียด ไม่มีความสับสน แค่คลิกไม่กี่ครั้งก็เสร็จ

ฟีเจอร์เด่นของ ReiBoot

• อัปเกรดหรือดาวน์เกรด iOS โดยไม่ต้องใช้ iTunes
• รองรับการเข้าสู่และออกจาก Recovery Mode เพียงคลิกเดียว
• แก้ไขปัญหาระบบ iOS กว่า 150 รายการ (เช่น ติดโลโก้ Apple, หน้าจอดำ เป็นต้น)
• รองรับ iOS 19 beta เวอร์ชันล่าสุด
• เก็บข้อมูลของคุณไว้ในระหว่างการซ่อมแซมโหมดมาตรฐาน
• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะทางเทคนิค

วิธีอัปเกรดหรือดาวน์เกรด iOS ด้วย ReiBoot

• อันดับแรก ให้ ดาวน์โหลดและติดตั้ง ReiBoot บนคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac ของคุณ
• เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB เปิดโปรแกรม ReiBoot แล้วเลือกตัวเลือก “Upgrade/Downgrade iOS” จากหน้าจอหลัก

• เลือก “Upgrade” เพื่อติดตั้ง iOS เวอร์ชันล่าสุด หรือ “Downgrade” เพื่อลงเวอร์ชันก่อนหน้า

• กด “Initiating upgrade” ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ที่จำเป็น และปล่อยให้ ReiBoot ทำงานให้เสร็จโดยอัตโนมัติ

พูดความคิดของคุณ

พูดความคิดของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• วันเปิดตัว iOS 19 Beta: ios 19 Beta อัพวันไหน?
• iOS 19 Beta: ควรอัพเดทตอนนี้เลยไหม?

หัวข้อทั้งหมด