ปํญหาที่พบล่าสุดของ iPhone 14 และการแก้ไข [อัปเดต 2567]
โดย Anna Sherry อัพเดทเมื่อ 2024-10-29 / เกี่ยวกับ iPhone 14
โทรศัพท์ iPhone 14 เพิ่งจะมีการวางจำหน่ายและมีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ให้ใช้งานมากมาย ทั้งกล้อง 48MP บน iPhone 14 Pro และ Pro Max, Dynamic Island, Crash Detection, และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
แม้ว่าใครหลาย ๆ คนจะมีความสุขไปกับการใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ แต่บางคนกลับต้องเจอกับปัญหามากมาย เช่น แบตเตอรีหมดเร็วเมื่อเปิด AOD, เปิดแอปแล้วกล้องสั่น เช่น แอป Snapchat, และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งปัญหาบางอย่างต้องได้รับการแก้ไขจาก Apple แต่ก็มีปัญหาบางอย่างที่คุณสามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยของเครื่อง iPhone 14 ซึ่งง่ายมาก ๆ ครับ
- พาร์ทที่ 1: ปัญหาที่พบบ่อยของ iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max)
- พาร์ทที่ 2: วิธีแก้ปัญหา iPhone 14 อย่างรวดเร็ว HOT
- พาร์ทที่ 3: เครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหาและแก้บั๊กของ iPhone 14 TOP
- พาร์ทพิเศษ: อยากเปลี่ยนไปใช้ iPhone 14? 4 วิธีที่จะช่วยให้คุณย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่ามาไว้ในเครื่องใหม่
พาร์ทที่ 1: ปัญหาที่พบบ่อยของ iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max)
ปัญหาที่พบได้มีอยู่หลายปัญหาครับ แต่เราจะมาพูดถึงปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ของโทรศัพท์ iPhone 14 มาดูกันเลยครับ
1. ตั้งค่า iPhone 14 ไม่ได้
เมื่อตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ iPhone 14 มักค้างในระหว่างการตั้งค่า ซึ่งเครื่องอาจค้างเมื่อใดก็ได้ แต่ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดก็คือเครื่องค้างระหว่างการถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องเก่ามาที่เครื่องใหม่
2. เปิดเครื่อง iPhone 14 ไม่ได้
บางครั้งผู้ใช้อาจไม่สามารถเปิดเครื่อง iPhone 14 ได้ โดยเมื่อกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ หน้าจอกลับไม่ปรากฎโลโก้ Apple หรือเปิดเครื่องขึ้นมาอย่างที่ต้องการ
3. แบตเตอรี่หมดเร็ว
ปัญหาอีกอย่างที่พบบ่อยคือแบตเตอรี่ของ iPhone หมดเร็ว โดยหลาย ๆ คนบอกว่า iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นมาก
โอยแอปต่าง ๆ อาจเป็นตัวที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการที่เปิดฟีเจอร์ Always-On Display ใน iPhone 14 Pro ไว้อีกด้วย
4. กล้องสั่น
ปัญหากล้อง iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) สั่น เป็นปัญหาที่ผู้ใช้แอป Snapchat และ Tiktok เจอ
โดยกล้องมักจะสั่นในระหว่างถ่ายรูปหรือวิดีโอ แต่ไม่เกิดเมื่อเวลาใช้กล้องปกติ ซึ่งเป็นปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับผู้ที่ใช้ Snapchat กับ TikTok เป็นประจำมาก ๆ ครับ
5. iPhone 14 สั่นเอง
บางครั้ง iPhone ชอบสั่นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ
iPhone 14 เครื่องใหม่อาจมีการตอบสนองต่อการสัมผัสเครื่องแม้ว่าผู้ใช้จะยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม เช่น เกิดการตอบสนองจากเครื่องระหว่างใช้แอปกล้อง แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้กดถ่ายรูปเลยก็ตาม
6. iPhone 14 ค้างหลังการถ่ายโอนข้อมูล
อีกปัญหาหนึ่งของ iPhone 14 Pro ที่พบได้บ่อยก็คือเครื่องมักค้างหลังจากการถ่ายโอนข้อมูล
เมื่อผู้ใฃ้กู้คืนข้อมูลจาก iCloud มาไว้ที่ iPhone 14 เครื่องใหม่ เครื่องมักจะค้างครับ บางครั้งอาจค้างที่หน้า "ระยะเวลารอโดยเฉลี่ย" หรือค้างที่หน้าจออื่น ๆ
7. AirDrop ใช้ไม่ได้
เมื่อตั้งค่า iPhone 14 เครื่องใหม่ บางครั้ง AirDrop อาจจะไม่ทำงานครับ เนื่องจากไม่สามารถเชื่อมต่อ AirDrop กับ iPhone 14 (Plus/Pro/PRO Max) ได้
8. แอปกล้องทำงานช้า
อีกปัญหาหนึ่งของ iPhone ที่พบได้บ่อยคือปัญหากล้องกระตุกและทำงานได้ช้ามาก
มักเกิดกับแอปกล้องของเครื่อง บางครั้งเวลาเปิดแอป แอปจะแสดงช่องมองภาพช้า หรือเวลาสลับกล้องหน้าหลังก็จะช้าเหมือนกันครับ
พาร์ทที่ 2: วิธีแก้ปัญหา iPhone 14 อย่างรวดเร็ว HOT
1. แก้ปัญหาการตั้งค่า iPhone 14 14 ไม่ได้
มาดูวิธีแก้ไขกันครับ
วิธีที่ 1: ทาง Apple แนะนำว่าให้รีสตาร์ทเครื่อง iPhone และลองใหม่อีกครั้ง ดังนั้นคุณสามารถ บังคับรีสตาร์ท iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) เพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้ชั่วคราวครับ
- วิธีที่ 2: ผู้ใช้บางคนบอกว่าการถอดซิมออกมาและใส่เข้าไปใหม่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ คุณอาจลองเอาซิมการ์ดออกมาเช็ดทำความสะอาด จากนั้นให้ใส่ซิมกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง แล้วลองตั้งค่าเครื่องอีกรอบครับ
วิธีที่ 3: อัปเดต iPhone ให้เป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด เช่น iOS 16.0.1 หรือ iOS 16.0.2 ทาง Apple รับทราบถึงปัญหานี้และได้พยายามหาสาตุของปัญหานี้ครับ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Apple ได้แก้บั๊กและอัปเดต iOS 16 เวอร์ชันที่มีการแก้ปัญหาแล้วออกมา (หมายเหตุ: เวอร์ชันย่อยของ iOS 16 ที่ปล่อยออกมานี้ใช้ได้เฉพาะ iPhone 14 เท่านั้น (Plus/Pro/Pro Max)
หากคุณลองแก้ปัญหาด้วยการรีสตาร์ทแล้ว คุณสามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการผ่านการตั้งค่า iPhone (OTA) แต่หากเครื่องยังค้างอยู่ คุณสามารถอัปเดตผ่าน iTunes ได้
มาดูวิธีอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาการตั้งค่า iPhone 14 ไม่ได้กันเลย
2. แก้ปัญหาการเปิดเครื่อง iPhone 14 ไม่ได้
มาดูวิธีแก้ปัญหาเปิด iPhone ไม่ติดกันครับ
- วิธีที่ 1: ตรวจสอบสาย USB และอะแดปเตอร์ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่ วิธีนี้อาจฟังดูแปลก ๆ แต่บางครั้งก็ได้ผลนะครับ ลองทำดูเลย
- วิธีที่ 2: ตรวจสอบว่า iPhone มีแบตเตอรี่เพียงพอหรือไม่ บางครั้งอาจเป็นเพราะแบตหมดครับ ให้ลองชาร์จประมาณ 30 นาที แล้วลองเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง
- วิธีที่ 3: รีสตาร์ท iPhone โดยกดและปล่อยปุ่มเพิ่มระดับเสียง (+) อย่างรวดเร็ว กดและปล่อยปุ่มลดระดับเสียง (-) จากนั้นกดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องด้านข้างค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple
วิธีที่ 4: ถ้าลองวิธีที่สามแล้วแต่ยังไม่สามารถใช้ iPhone ได้ คุณอาจกู้คืน iPhone ด้วยการใช้ iTunes แต่วิธีจะลบช้อมูลใน iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) ออกไปด้วยครับ
ให้เปิด recovery mode จากนั้นกู้คืนเครื่องผ่านทาง iTunes/Finder
- วิธีที่ 5: ติดต่อขอเปลี่ยนเครื่องกับทาง Apple ถ้าลองใช้วิธีทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิด iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) ได้ อาจเกิดปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ต้องติดต่อทางศูนย์ Apple Care ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีแก้ปัญหาการเปิด iPhone 14 ไม่ติด
3. แบตเตอรี่หมดเร็ว? มาดูวิธีแก้กัน
มาดูวิธีแก้บั๊กนี้ของ iOS 16 กันครับ
- วิธีที่ 1: เวลาได้ iPhone เครื่องใหม่มา บางครั้งเครื่องอาจมีการดำเนินการบางอย่างอยู่ เช่น กำลังดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมดจาก iCloud Drive เข้ามาที่ส่วนจัดเก็บข้อมูลในเครื่อง จึงทำให้แบตเตอรี่ลดเร็ว ฉะนั้นควรรอสักสองสามวันจนกว่ากระบวนการตั้งค่าของโทรศัพท์จะเสร็จสิ้นครับ
วิธีที่ 2: ตรวจสอบการอัปเดต หากยังไม่ได้ใช้ iOS เวอร์ชันล่าสุด เช่น เวอร์ชัน 16.0.2 ให้อัปเดตนะครับ
- วิธีที่ 3: แอปบางตัวอาจกินแบตเตอรี่มากกว่าแอปอื่น ๆ ให้ดูที่เมนูแบตเตอรี่ในส่วนของการตั้งค่า iPhone และดูว่าแอปใดที่กินแบตเตอรี่มาก หากไม่จำเป็นต้องใช้แอปนั้น ๆ ก็ควรลบออกจากเครื่องครับ
- วิธีที่ 4: หากแอปกินพลังงานแบตเตอรี่มากเกินไป แต่คุณไม่ต้องการลบแอปออก คุณสามารถปิดการรีเฟรชบนพื้นหลังของแอปได้ โดยในระหว่างที่คุณไม่ได้เปิดใช้งานแอป แอปจะไม่สามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้อีก
- วิธีที่ 5: สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คุณสามารถกู้คืน iPhone ด้วยการใช้ ReiBoot และ iTunes/Finder เพื่อแก้ปัญหาบั๊กทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้
4. แก้ปัญหากล้อง iPhone 14 สั่น
มาดูวิธีการแก้ปัญหานี้ด้านล่างเลยครับ
- วิธีที่ 1: Apple ได้ปล่อยระบบปิบัติการเวอร์ชันล่าสุดออกมาซึ่งก็คือ iOS 16.0.2 โดยได้แก้ไขปัญหาเรื่องกล้องสั่นเรียบร้อย หากคุณยังม่ได้ดาวน์โหลด ก็ดาวน์โหลดและติดตั้งมาไว้ในโทรศัพท์นะครับ
- วิธีที่ 2: หากอัปเดตเครื่องแล้วกล้องยังสั่นอยู่ อาจต้องรีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้งเพื่อกำจัดข้อบกพร่องออกจากระบบครับ
- วิธีที่ 3: หากยังมีปัญหาอยู่อาจต้องลบแอปที่มีปัญหาอออกไป เช่น Snapchat หรือ TikTok แล้วติดตั้งแอปใหม่จาก App Store อีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีการแก้ปัญหากล้อง iPhone 14 สั่นโดยละเอียด
5. iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) สั่นเอง - วิธีแก้ปัญหา
มาดูวิธีแก้ปัญหากันครับ
- วิธีที่ 1: การอัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด (16.0.2) จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ โดยดาวน์โหลดและติดตั้งได้จากส่วนการตั้งค่า (ใน iTunes ก็ทำได้ครับ)
วิธีที่ 2: หากอัปเดตแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ปิดการตอบสนองแบบสัมผัสที่ส่วนการตั้งค่า แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง โดยจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราวครับ
- วิธีที่ 3: หากอัปเดตแล้วยังเกิดปัญหาอยู่ ให้รีสตาร์ท iPhone ของคุณ หากยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ให้กดและปล่อยปุ่มเพิ่มระดับเสียง กดแล้วปล่อยปุ่มลดระดับเสียง จากนั้นกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple
บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีอัปเดต iPhone โดยใช้ไฟล์ IPSW
6. แก้ปัญหา iPhone 14 ค้างหลังการถ่ายโอนข้อมูล
วิธีนี้คือวิธีที่เราแนะนำครับ (วิธีนี้ใช้ได้ผลกับ iPhone 14 ที่เปิดเครื่องม่ติดหลังการถ่ายโอนข้อมูลได้เช่นกัน)
- วิธีที่ 1: หากเครื่องค้างในระหว่างกระบวนการกู้คืน ทาง Apple แนะนำให้ผู้ใช้รีสตาร์ท iPhone โดยการกดและปล่อยปุ่มเพิ่มระดับเสียง กดและปล่อยปุ่มลดระดับเสียง จากนั้นกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple
- วิธีที่ 2: อัปเดต iPhone ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด หากคุณยังอยู่ในขั้นตอนการตั้งค่าและไม่สามารถเข้าไปที่การตั้งค่าได้ ให้เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์และอัปเดตเครื่องได้จาก Finder/iTunes
- วิธีที่ 3: ลองกู้คืนข้อมูลจากข้อมูลสำรองที่อยู่ใน iTunes/Finder แทนข้อมูลสำรองที่อยู่ใน iCloud ทำได้โดยให้สำรองข้อมูลโทรศัพท์เครื่องเก่าไว้ในคอมพิวเตอร์โดยใช้ Finder/iTunes จากนั้นเชื่อมต่อ iPhone เครื่องใหม่กับคอมพิวเตอร์และเลือก "กู้คืนจากคอมพิวเตอร์" ในหน้าถ่ายโอนข้อมูลในระหว่างขั้นตอนการตั้งค่า
- วิธีที่ 4: หากยังไม่ได้ผล ให้ข้ามขั้นตอนการถ่ายโอนข้อมูล จากนั้น ใช้ Tenorshare iCareFone เพื่อย้ายข้อมูลของคุณจากเครื่องเก่าไปยัง iPhone เครื่องใหม่
บทความที่เกี่ยวข้อง: แก้ปัญหา iPhone 14 ค้างหลังการถ่ายโอนข้อมูล (ได้ผล 100%)
7. แก้ปัญหา AirDrop ของ iPhone 14 ใช้ไม่ได้
มาดูวิธีแก้ปัญหา AirDrop ไม่ทำงานกันครับ
- วิธีที่ 1: AirDrop ต้องใช้ Bluetooth และ WiFi ในการทำงาน ดังนั้นควรตรวจสอบว่าเปิด Bluetooth และ WiFi เปิดอยู่หรือไม่ โดยดึงแถบ Control Center ลงมาดูว่าได้เปิดฟีเจอร์ลดังกล่าวอยู่หรือไม่
วิธีที่ 2: เปิดโหมดเครื่องบิน แล้วปิดโหมดเครื่องบินกลับไป วิธีนี้จะเป็นการรีสตาร์ทฟีเจอร์การเชื่อมต่อไร้สาย เช่น WiFi และข้อมูลเซลลูลาร์ และอาจแก้ไขปัญหาเรื่อง AirDrop ได้
- วิธีที่ 3: วิธีสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ให้ลองรีสตาร์ท iPhone ของคุณว่าสามารถแก้ขปัญหาได้หรือไม่
8. แอปกล้องทำงานช้า จะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร?
หากแอปกล้องช้า ให้ลองแก้ไขดังนี้
วิธีที่ 1: ขั้นแรกให้ปิดแอปกล้องถ่ายรูปจากหน้าแอปล่าสุด แล้วเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งทำได้โดยการปัดหน้าจอจากด้านล่างขึ้นมาจนกว่าจะเห็นแอปล่าสุด จากนั้นปัดหน้าจอแอปกล้องขึ้นเพื่อปิด
- วิธีที่ 2: รีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ซึ่งจะเป็นการรีเซ็ตการตั้งค่ากล้องของด้วย สามารถทำได้โดยเปิดแอปการตั้งค่าและไปที่ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด
วิธีที่ 3: ดาวน์โหลดและติดตั้ง iOS 16.0.2 ในแอปการตั้งค่า โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > การอัปเดตซอฟต์แวร์
- วิธีที่ 4: หากยังไม่ได้ผลให้กู้คืน iPhone โดยใช้ ReiBoot หรือ iTunes/Finder โดยจะเป็นการติดตั้งระบบ iOS ของใหม่และลบบั๊กทั้งหมดออกไป
พาร์ทที่ 3: เครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหาและแก้บั๊กของ iPhone 14 TOP
ตอนนี้คุณก้ได้ทราบถึงปัญหาที่พบได้บ่อยใน iPhone 14 แล้ว และปัญหาส่วนใหญ่มักเกิดจากบั๊กของระบบปฏิบัติการ iOS ใหม่ มาดูวิธีแก้ปัญหาทั้งหมดของ iOS ภายในครั้งกัยวกันเลย ซึ่งก็คือการใช้ Tenorshare ReiBoot
Tenorshare จะช่วยติดตั้งระบบปฏิบัติการ iOS ในเครื่องใหม่ จึงช่วยแก้บั๊กหรือปัญหาทั้งหมดออกไปได้
- เข้า/ออกจากโหมดการกู้คืน iPhone ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว
- แก้ไขปัญหา iPhone/iPad ได้มากกว่า 150 ปัญหา เช่น iPhone 14 ใช้งานไม่ได้, iPhone 14 ค้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย...
- ดาวน์เกรด iPhone ให้เป็นเวอร์ชันก่อนหน้า
- ไม่ลบข้อมูลในเครื่อง
- ปลอดภัย 100%
ศึกษา ReiBoot ได้จากวิดีโอ:
มาดูวิธีแก้ปัญหา iPhone14 ง่าย ๆ ด้วย ReiBoot กันครับ:
ดาวน์โหลดและติดตั้ง ReiBoot โดยคลิกที่ปุ่มด้านบน เปิด ReiBoot บนพีซีหรือ Mac จากนั้นเชื่อมต่อ iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วคลิก “เริ่ม”
กดที่ "แก้ไขทันที" ในหน้าถัดไป จากนั้นในหน้าถัดไปให้เลือก "การซ่อมแซมมาตรฐาน"
ระบบจะให้คุณดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด คลิกที่ปุ่ม "ดาวน์โหลด"
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้กด "เริ่มการซ่อมแซมมาตรฐาน"
รอจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ เครื่องจะถูกรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ และบั๊กเกือบทั้งหมดจะหายไป
พาร์ทพิเศษ: อยากเปลี่ยนไปใช้ iPhone 14? 4 วิธีที่จะช่วยให้คุณย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่ามาไว้ในเครื่องใหม่
หากเครื่อง iPhone 14 Pro ร้อนเกินไปในระหว่างกระบวนการตั้งค่า โดยเฉพาะในระหว่างกู้คืนข้อมูลจาก iCloud มาดูวิธีการแก้ไขปัญหาได้จากเนื้อหาส่วนนี้กันเลยครับ แถมวิธีเหล่านี้ยังได้ผลกับเครื่อง iPhone ที่ค้างในระหว่างกระบวนการเหล่านี้อีกด้วยนะ
1. สำรองข้อมูล iPhone เครื่องเก่าไว้ในคอมพิวเตอร์และกู้คืนข้อมูลไปยัง iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) เครื่องใหม่
วิธีการสำรองข้อมูล iPhone และกู้คืนข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ทำได้สองวิธีครับ
แม้ว่าวิธีแรกจะได้ผลดี แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เราแนะนำครับ หากคุณไม่สามารถกู้คืนข้อมูลจาก iCloud ได้ คุณก็อาจจะม่สามารถกู้คืนข้อมูลจาก Finder/iTunes ได้เช่นกัน นอกจากนี้คุณยังต้องรีเซ็ต iPhone อีกรอบเพื่อเข้าสู่หน้าจอการถ่ายโอนข้อมูลของกระบวนการตั้งค่า
แต่ Tenorshare iCareFone ไม่มีปัญหาแบบนี้ครับ เพราะ iCareFone ไม่ต้องใช้กระบวนการในการถ่ายโอนข้อมูลแบบที่เคยทำ แต่ iCareFone จะสำรองข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่าไปยังคอมพิวเตอร์ จากนั้นจึงย้ายไฟล์เหล่านั้นไปยัง iPhone เครื่องใหม่โดยไม่มีปัญหาไม่แต่น้อย
สิ่งที่เจ๋งที่สุดก็คือคุณสามารถกู้คืนข้อมูลสำรองได้หลังจากที่ตั้งค่า iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) เครื่องใหม่สำเร็จแล้ว โดยที่ข้อมูลในเครื่องไม่หายไป
บทความที่เกี่ยวข้อง: สำรองข้อมูล iPhone ไว้ใน iCloud หรือคอมพิวเตอร์?
หากต้องการใช้ iCareFone ให้ปฏิบัติดังนี้
ดาวน์โหลดและติดตั้ง iCareFone บนคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อ iPhone เครื่องเก่าคอมพิวเตอร์แล้วเปิด iCareFone
ในส่วนสำรอง & กู้คืน (Backup & Restore) ให้สำรองไฟล์ทั้งหมดไปยังคอมพิวเตอร์
เมื่อการสำรองข้อมูลเสร็จสิ้น ให้นำโทรศัพท์เครื่องเก่าออกจากคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่อกับเครื่องใหม่/p>
ในส่วนการสำรอง & กู้คืน ให้เลือกกู้คืนไฟล์ทั้งหมดที่คุณสำรองไว้ก่อนหน้านี้ โดยไฟล์เหล่านั้นจะถูกกู้คืนไปยัง iPhone เครื่องใหม่โดยอัตโนมัติ
เพียงเท่านี้ iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) เครื่องใหม่ของคุณก็มีข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่าอยู่แล้ว
2. ข้อมูลสำรองจาก iCloud
หากคุณได้ติดตั้ง iOS 16.0.2 แล้ว คุณอาจใช้การสำรองข้อมูล iCloud ได้ตามปกติ และอาจลองวิธีนี้อีกครั้ง
แต่คุณอาจไม่สามารถเปิดเครื่อง iPhone 14 Pro ได้หลังจากการถ่ายโอนข้อมูลจาก iCloud
นอกจากนี้หากการเชื่อมต่อเครือข่ายช้าหรือไม่เสถียร วิธีนี้อาจไม่ได้ผล เนื่องจากการดาวน์โหลดข้อมูลจากคลาวด์ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการดาวน์โหลด Tenorshare iCareFone และถ่ายโอนข้อมูลด้วยตัวคุณเอง
3. ข้อมูลสำรองจาก iTunes
วิธีนี้ได้ผลมากว่าการใช้ iCloud แต่ไม่ได้ดีเท่าการใช้ Tenorshare iCarefone ครับ
ข้อดีของวิธีนี้ก็คือข้อมูลจะถูกสำรองไว้ในคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่บนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นความเร็วรือความเสถียรของอินเทอร์เน็ตจึงไม่มีผล
แต่วิธีนี้ใช้กระบวนการในการ กู้คืนข้อมูลเช่นเดียวกับ iTunes/Finder ดังนั้นวิธีก็อาจใช้ไม่ได้ผลสำรับคุณเช่นกัน แล้วต้องใช้วิธีใดล่ะ? ใช้ Tenorshare iCareFone สิครับ ใช้ได้ผลแน่นอน 100%
4. Move to iOS
หากคุณย้ายข้อมูลจากแอนดรอยด์มายัง iPhone 14 (Plus/Pro/Pro Max) คุณสามารถใช้แอป Move to iOS ได้
ดาวน์โหลดแอปจาก Play Store บนโทรศัพท์แอนดรอยด์เครื่องเก่า จากนั้นเลือกกุ้คืนข้อมูลจากอุปกรณ์แอนดรอยด์จากหน้าการถ่ายโอนข้อมูลในระหว่างการตั้งค่าโทรศัพท์
- ข้อเสียของวิธีนี้ก็คือใช้ได้ผลกับการถ่ายโอนข้อมูลจากแอนดรอยด์มา iPhone เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง iPhone ได้
- นอกจากนี้แอปนี้ยังใช้งานได้ไม่ดีและไม่ค่อยได้ผล
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือปัญหาของ iPhone 14 ที่คุณควรต้องระวังไว้ครับ
คุณควรตรวจสอบการอัปเดตจากส่วนการตั้งค่าอยู่เสมอ เพื่อให้โทรศัพท์ของคุณได้ใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด โดย Apple มักจะออกระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องบั๊ก นอกจากน้ Tenorshare ReiBoot ยังสามารถช่วยแก้ขปัญหาของ iOS ได้ง่าย ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้หากคุณมีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนข้อมูล เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิมากกว่า นั่นก็คือ Tenorshare iCareFone ครับ