iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเอง? เรามีวิธีแก้ไข
โดย Sophie Green อัพเดทเมื่อ 2024-10-23 / เกี่ยวกับ iPhone Fix
ฟอรัมในเว็บไซต์เต็มไปด้วยคำถาม "iPhone ของฉันรีสตาร์ทเอง" และผู้ใช้หลายคนก็พบปัญหาเดียวกันนี้ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากการอัปเดตเป็น iOS14 ซึ่งส่งผลให้การทำงานฟังก์ชันมีปัญหาใน iPhone 15/14/13/12/11/X ดังนั้นหากว่า iPhone ของคุณรีสตาร์ไม่หยุด และคุณไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไง ให้ลองอ่านบทความนี้ดู เราได้รวบรวมปัญหาเกือบทั้งหมดและทางแก้ไขเอาไว้ที่นี่แล้ว เราไปเริ่มจากอันที่ง่ายที่สุดกันก่อนเลยดีกว่า
อย่างที่หลายคนบ่นกันเข้ามาว่า "iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเอง หรือ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทค้างหน้าจอแอปเปิ้ล" มีสองกรณีที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น อย่างแรกคือ iPhone รีสตาร์ทวนซ้ำๆ หลังจากเข้าสู่หน้าโฮมสกรีน อย่างที่สองคือ iPhone รีสตาร์ทไม่เสร็จด้วยซ้ำ และปิดเครื่องดับไปเองเฉยๆ เลย เช่น ค้างที่การวนซ้ำรีสตาร์ท เราจะมาพูดถึงสองกรณีนี้ และวิธีการแก้ไขกันในส่วนนี้
- ส่วนที่ 1: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยและเข้าสู่หน้าโฮมไม่ได้
- ส่วนที่ 2: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยแล้วเปิดเครื่องไม่ได้:
ส่วนที่ 1: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยและเข้าสู่หน้าโฮมไม่ได้
ผู้ใช้หลายคนบ่นว่าพอ iPhone รีสตาร์ทแล้ว มันชอบขอให้ใส่รหัสผ่านซ้ำๆ แล้วมันก็รีสตาร์ทอีก หน้าจอเป็นสีดำ หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X ของคุณมีปัญหารีสตาร์ทค้างไม่หยุด และรีบูตสลับไปมา ต่อไปนี้คือวิธีการแก้ไข
ทางออกที่ 1. อัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone:
อย่างแรกเลย ให้อัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone เพราะว่ามีความเป็นไปได้ว่าการที่ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดเป็นเพราะไม่ได้อัปเดตโปรแกรม ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่ออัปเดต
ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอปการตั้งค่า และคลิกที่การตั้งค่าทั่วไป คุณจะเห็นตัวเลือกอัปเดตซอฟต์แวร์
ขั้นตอนที่ 2: เปิดการอัปเดตแบบอัตโนมัติ เพื่อดูว่ามีอัปเดตใหม่สำหรับซอฟต์แวร์หรือเปล่า หากว่ามี ให้คลิกดาวน์โหลดและติดตั้ง และรอให้เสร็จ
หากว่าไม่มีการอัปเดตใหม่ ให้ลองทางออกต่อไปดู
ทางออกที่ 2. :อัปเดตแอปทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
มีความเป็นไปได้เล็กน้อยว่าปัญหาอาจจะเกิดจากแอปที่คุณติดตั้งในเครื่องที่ทำให้ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด ดังนั้นคุณต้องอัปเดตแอปที่อยู่ในเครื่องของคุณ โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
ขั้นตอนที่ 1: เปิดที่แอปสโตร์ และแตะที่อัปเดต เลือกที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ
ขั้นตอนที่ 2: เลือกคลิกที่อัปเดตทั้งหมดที่ด้านบนหน้าจอ หรือเลือกอัปเดตแอปแยกทีละอัน
หลังจากแอปทั้งหมดได้รับการอัปเดตแล้ว ตรวจสอบดูว่าปัญหายังเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือได้รับการแก้ไขแล้ว หากว่ายังไม่ได้รับการแก้ไข ให้ลองวิธีต่อไป
ทางออกที่ 3. ตรวจสอบและลบแอปที่มีปัญหา:
หากว่าแอปทั้งหมดได้รับการอัปเดตแล้ว แต่ปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดยังคงไม่หายไป อาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดจากแอปที่มีปัญหา แอปของบุคคลที่สามอาจจะสร้างปัญหาให้กับซอฟต์แวร์ ดังนั้นคุณต้องลบแอปเหล่านั้นทิ้งไป เลือกแอป แล้วกดค้างจนกว่าแอปจะสั่น จากนั้นเลือกยกเลิกการติดตั้ง และดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
ทางออกที่ 4. ตั้งค่าใหม่ทั้งหมดในการตั้งค่า:
อีกทางออกที่คุณควรลองทันทีหากว่าวิธีการข้างต้นไม่ได้ผลก็คือการรีเซ็ตการตั้งค่า หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด การตั้งค่าใหม่จะรีเซ็ตเครื่อง และบางอย่างที่เป็นปัญหาอาจจะได้รับการแก้ไขไปด้วยเมื่อรีเซ็ต ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างดู
ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอปการตั้งค่า ไปยังการตั้งค่าทั่วไป เลื่อนลงไปจนสุดและหาเมนูรีเซ็ต
ขั้นตอนที่ 2: ในเมนูรีเซ็ต เลือกรีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด คุณต้องยืนยันว่าจะรีเซ็ตโดยการใส่รหัสผ่านเครื่อง
รอจนกว่าการตั้งค่าอุปกรณ์จะได้รับการรีเซ็ต และตรวจสอบดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
ส่วนที่ 2: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยแล้วเปิดเครื่องไม่ได้:
กรณีที่สองคือการที่ iPhone 15/14/13/12/11/X Pro Max รีสตาร์ทวนลูปไม่หยุด เมื่อ iPhone ไม่สามารถไปถึงหน้าโฮมสกรีนได้ แสดงว่าคุณต้องลองทางแก้ไขต่อไปนี้
ทางออกที่ 1. บังคับรีสตาร์ท iPhone เพื่อแก้ไขปัญหา iPhone รีสตาร์ทเองบ่อย:
หากว่า iPhone ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ การแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีบูตวนไม่หยุดคือการรีเซ็ตเครื่อง ให้คุณบังคับรีสตาร์ท iPhone 15/14/13/12/11/X/11 Pro/11 Pro Max โดยลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- กดค้างที่ปุ่มเพิ่มเสียง แล้วปล่อย
- ทำเช่นเดียวกันกับปุ่มลดเสียง
- สุดท้าย กดค้างที่ปุ่มเปิดปิด และปล่อยเมื่อโลโก้แอปเปิ้ลปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ทางออกที่ 2. ดึง SIM Card ออก:
หากว่ารีเซ็ตไปแล้ว แต่ปัญหายังไม่หายไป อาจจะเป็นเรื่องของเครือข่ายก็ได้ที่ทำให้อุปกรณ์ค้างไม่หยุด ทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือการเอา SIM Card ออกจากเครื่อง แล้วดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่ แล้วลองใส่ SIM Card กลับเข้าเครื่องใหม่ดูอีกครั้ง
ทางออกที่ 3. ตรวจสอบแบตเตอรี่:
อีกหนึ่งปัญหาที่คุณอาจจะลืมดูก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ หากว่าเครื่องแบตใกล้หมด iPhone 15/14/13/12/11/X ก็อาจจะรีสตาร์ทเองได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมชาร์จ iPhone แล้วรอสักครู่จนกว่าจะได้รับการชาร์จสักหน่อย
ทางออกที่ 4. DFU กู้คืน iPhone (ลบดาต้า):
หากว่าวิธีเบื้องต้นไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของคุณได้ และเครื่องยังคงดับอยู่ดี ยังมีอีกวิธีที่คุณลองทำได้ ซึ่งก็คือการกู้คืน DFU ซึ่งจะช่วยรีเซ็ตอุปกรณ์ที่ถูกปิดอยู่ได้ DFU น่าจะช่วยแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดได้ เพื่อกู้คืน iPhone 15/14/13/12/11/X ในโหมด DFU โปรดทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:
ขั้นตอนที่ 1: โหลดเวอร์ชัน iTunes ล่าสุดลงในระบบและเชื่อมต่อกับ iPhone
ขั้นตอนที่ 2: เปลี่ยน iPhone 15/14/13/12/11/X/11 Pro(Max) ให้อยู่ในโหมด DFU
- กดค้างที่ปุ่มลดเสียงและปุ่มเปิดปิดสัก 5 วินาที
- ปล่อยปุ่มเปิดปิดขณะที่กดค้างที่ปุ่มลดเสียง
- รอสัก 5 วินาที และเครื่องน่าจะเข้าสู่โหมด DFU แล้ว
ขั้นตอนที่ 3: หน้าจอสีดำที่แสดงบนหน้าจอ แปลว่าคุณอยู่ในโหมด DFU แล้ว เมื่ออุปกรณ์เข้าสู่โหมด DFU iTunes จะแจ้งเตือนว่าอุปกรณ์ได้รับการตรวจจับว่าอยู่ในโหมด recovery
ขั้นตอนที่ 4: คลิกที่กู้คืน iPhone จากแท็บสรุป เพื่อยืนยันการกระทำและรอให้ iTunes กู้คืน iPhone ของคุณ
วิธีนี้จะลบข้อมูลของอุปกรณ์ของคุณทั้งหมด ดังนั้นให้ลองใช้วิธีนี้เมื่อคุณสำรองข้อมูลแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียข้อมูลบางส่วนตลอดไปแบบถาวร
ทางออกที่ 5. แก้ไข iPhone รีสตาร์ทเองบ่อยโดยไม่สูญเสียข้อมูล:
หากว่าคุณมีปัญหาซอฟต์แวร์ และต้องการแก้ไขโดยไม่เสียข้อมูลไป เราขอแนะนำให้ใช้ Tenorshare ReiBoot.ซึ่งเป็นอุปกรณ์แก้ไขระบบ iOS ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด ค้างที่หน้าโลโก้แอปเปิ้ล หรือปัญหาซอฟต์แวร์ต่างๆ ReiBoot สามารถช่วยคุณแก้ไขได้ในไม่กี่นาที คุณสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ได้ทั้งบน Mac และ Windows เพื่อซ่อมแซมระบบซอฟต์แวร์ทันที
ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่คุณควรทำตาม
ขั้นตอนที่ 1: เปิดโปรแกรม และจากหน้าโฮมอินเทอร์เฟซ คลิกเริ่ม เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับระบบ และแตะที่การซ่อมแซมมาตรฐาน
ขั้นตอนที่ 2: ซอฟต์แวร์จะขอให้คุณดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์แพ็คเกจที่เข้ากับรุ่นของอุปกรณ์ของคุณ คลิกที่ดาวน์โหลด และรอจนกว่าแพ็คเกจจะดาวน์โหลดเสร็จและได้รับการตรวจสอบ
ขั้นตอนที่ 3: คลิกที่เริ่มการซ่อมแซมมาตรฐาน และซอฟต์แวร์จะเริ่มซ่อมแซมอุปกรณ์ของคุณ มันจะใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น
หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น iPhone จะรีบูตและเริ่มใช้งานได้ตามปกติ หากว่าคุณไม่กังวลเรื่องข้อมูลหาย คุณสามารถเลือกใช้งานโหมดชั้นสูงเพื่อแก้ไขแบบเร็วๆ ดูก็ได้
Part 3. If It Is A Hardware Problem:
หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X ค้างอยู่ที่การรีสตาร์ท และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วย Reiboot ได้ นั่นอาจจะเพราะว่าปัญหาเกิดจากฮาร์ดแวร์ ดังนั้นให้นำอุปกรณ์ของคุณไปยังร้านค้าแอปเปิ้ลที่ใกล้ที่สุดของคุณเพื่อขอเปลี่ยนหรือเข้ารับการซ่อมจะดีกว่า
สรุป:
ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองแล้ว เราขอแนะนำว่าแทนที่จะทำการแก้ไขแบบชั่วคราว การใช้ Tenorshare ReiBoot ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยซ่อมแซมระบบ iOS ช่วยแก้ไขปัญหานั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อุปกรณ์นี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้มากกว่า 50 ปัญหา และช่วยคุณได้เยอะมากเมื่อคุณเจอปัญหาต่างๆ