iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเอง? เรามีวิธีแก้ไข

โดย Sophie Green   อัปเดตเมื่อ 2023-12-19 / อัพเดทสำหรับ  iPhone Fix

ฟอรัมในเว็บไซต์เต็มไปด้วยคำถาม "iPhone ของฉันรีสตาร์ทเอง" และผู้ใช้หลายคนก็พบปัญหาเดียวกันนี้ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากการอัปเดตเป็น iOS14 ซึ่งส่งผลให้การทำงานฟังก์ชันมีปัญหาใน iPhone 15/14/13/12/11/X ดังนั้นหากว่า iPhone ของคุณรีสตาร์ไม่หยุด และคุณไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไง ให้ลองอ่านบทความนี้ดู เราได้รวบรวมปัญหาเกือบทั้งหมดและทางแก้ไขเอาไว้ที่นี่แล้ว เราไปเริ่มจากอันที่ง่ายที่สุดกันก่อนเลยดีกว่า

อย่างที่หลายคนบ่นกันเข้ามาว่า "iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเอง หรือ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทค้างหน้าจอแอปเปิ้ล" มีสองกรณีที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น อย่างแรกคือ iPhone รีสตาร์ทวนซ้ำๆ หลังจากเข้าสู่หน้าโฮมสกรีน อย่างที่สองคือ iPhone รีสตาร์ทไม่เสร็จด้วยซ้ำ และปิดเครื่องดับไปเองเฉยๆ เลย เช่น ค้างที่การวนซ้ำรีสตาร์ท เราจะมาพูดถึงสองกรณีนี้ และวิธีการแก้ไขกันในส่วนนี้

ส่วนที่ 1: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยและเข้าสู่หน้าโฮมไม่ได้

ผู้ใช้หลายคนบ่นว่าพอ iPhone รีสตาร์ทแล้ว มันชอบขอให้ใส่รหัสผ่านซ้ำๆ แล้วมันก็รีสตาร์ทอีก หน้าจอเป็นสีดำ หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X ของคุณมีปัญหารีสตาร์ทค้างไม่หยุด และรีบูตสลับไปมา ต่อไปนี้คือวิธีการแก้ไข

ทางออกที่ 1. อัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone:

อย่างแรกเลย ให้อัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone เพราะว่ามีความเป็นไปได้ว่าการที่ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดเป็นเพราะไม่ได้อัปเดตโปรแกรม ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่ออัปเดต

ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอปการตั้งค่า และคลิกที่การตั้งค่าทั่วไป คุณจะเห็นตัวเลือกอัปเดตซอฟต์แวร์

software update

ขั้นตอนที่ 2: เปิดการอัปเดตแบบอัตโนมัติ เพื่อดูว่ามีอัปเดตใหม่สำหรับซอฟต์แวร์หรือเปล่า หากว่ามี ให้คลิกดาวน์โหลดและติดตั้ง และรอให้เสร็จ

download and install update

หากว่าไม่มีการอัปเดตใหม่ ให้ลองทางออกต่อไปดู

ทางออกที่ 2. :อัปเดตแอปทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

มีความเป็นไปได้เล็กน้อยว่าปัญหาอาจจะเกิดจากแอปที่คุณติดตั้งในเครื่องที่ทำให้ iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด ดังนั้นคุณต้องอัปเดตแอปที่อยู่ในเครื่องของคุณ โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1: เปิดที่แอปสโตร์ และแตะที่อัปเดต เลือกที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ

ขั้นตอนที่ 2: เลือกคลิกที่อัปเดตทั้งหมดที่ด้านบนหน้าจอ หรือเลือกอัปเดตแอปแยกทีละอัน

update apps

หลังจากแอปทั้งหมดได้รับการอัปเดตแล้ว ตรวจสอบดูว่าปัญหายังเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือได้รับการแก้ไขแล้ว หากว่ายังไม่ได้รับการแก้ไข ให้ลองวิธีต่อไป

ทางออกที่ 3. ตรวจสอบและลบแอปที่มีปัญหา:

หากว่าแอปทั้งหมดได้รับการอัปเดตแล้ว แต่ปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดยังคงไม่หายไป อาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดจากแอปที่มีปัญหา แอปของบุคคลที่สามอาจจะสร้างปัญหาให้กับซอฟต์แวร์ ดังนั้นคุณต้องลบแอปเหล่านั้นทิ้งไป เลือกแอป แล้วกดค้างจนกว่าแอปจะสั่น จากนั้นเลือกยกเลิกการติดตั้ง และดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

ทางออกที่ 4. ตั้งค่าใหม่ทั้งหมดในการตั้งค่า:

อีกทางออกที่คุณควรลองทันทีหากว่าวิธีการข้างต้นไม่ได้ผลก็คือการรีเซ็ตการตั้งค่า หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด การตั้งค่าใหม่จะรีเซ็ตเครื่อง และบางอย่างที่เป็นปัญหาอาจจะได้รับการแก้ไขไปด้วยเมื่อรีเซ็ต ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างดู

ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอปการตั้งค่า ไปยังการตั้งค่าทั่วไป เลื่อนลงไปจนสุดและหาเมนูรีเซ็ต

ขั้นตอนที่ 2: ในเมนูรีเซ็ต เลือกรีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด คุณต้องยืนยันว่าจะรีเซ็ตโดยการใส่รหัสผ่านเครื่อง

reset all settings

รอจนกว่าการตั้งค่าอุปกรณ์จะได้รับการรีเซ็ต และตรวจสอบดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

ส่วนที่ 2: iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองบ่อยแล้วเปิดเครื่องไม่ได้:

กรณีที่สองคือการที่ iPhone 15/14/13/12/11/X Pro Max รีสตาร์ทวนลูปไม่หยุด เมื่อ iPhone ไม่สามารถไปถึงหน้าโฮมสกรีนได้ แสดงว่าคุณต้องลองทางแก้ไขต่อไปนี้

ทางออกที่ 1. บังคับรีสตาร์ท iPhone เพื่อแก้ไขปัญหา iPhone รีสตาร์ทเองบ่อย:

หากว่า iPhone ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ การแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีบูตวนไม่หยุดคือการรีเซ็ตเครื่อง ให้คุณบังคับรีสตาร์ท iPhone 15/14/13/12/11/X/11 Pro/11 Pro Max โดยลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • กดค้างที่ปุ่มเพิ่มเสียง แล้วปล่อย
  • ทำเช่นเดียวกันกับปุ่มลดเสียง
  • สุดท้าย กดค้างที่ปุ่มเปิดปิด และปล่อยเมื่อโลโก้แอปเปิ้ลปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
force restart iPhone 11

ทางออกที่ 2. ดึง SIM Card ออก:

หากว่ารีเซ็ตไปแล้ว แต่ปัญหายังไม่หายไป อาจจะเป็นเรื่องของเครือข่ายก็ได้ที่ทำให้อุปกรณ์ค้างไม่หยุด ทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือการเอา SIM Card ออกจากเครื่อง แล้วดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่ แล้วลองใส่ SIM Card กลับเข้าเครื่องใหม่ดูอีกครั้ง

ทางออกที่ 3. ตรวจสอบแบตเตอรี่:

อีกหนึ่งปัญหาที่คุณอาจจะลืมดูก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ หากว่าเครื่องแบตใกล้หมด iPhone 15/14/13/12/11/X ก็อาจจะรีสตาร์ทเองได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมชาร์จ iPhone แล้วรอสักครู่จนกว่าจะได้รับการชาร์จสักหน่อย

ทางออกที่ 4. DFU กู้คืน iPhone (ลบดาต้า):

หากว่าวิธีเบื้องต้นไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของคุณได้ และเครื่องยังคงดับอยู่ดี ยังมีอีกวิธีที่คุณลองทำได้ ซึ่งก็คือการกู้คืน DFU ซึ่งจะช่วยรีเซ็ตอุปกรณ์ที่ถูกปิดอยู่ได้ DFU น่าจะช่วยแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุดได้ เพื่อกู้คืน iPhone 15/14/13/12/11/X ในโหมด DFU โปรดทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:

ขั้นตอนที่ 1: โหลดเวอร์ชัน iTunes ล่าสุดลงในระบบและเชื่อมต่อกับ iPhone

ขั้นตอนที่ 2: เปลี่ยน iPhone 15/14/13/12/11/X/11 Pro(Max) ให้อยู่ในโหมด DFU

  • กดค้างที่ปุ่มลดเสียงและปุ่มเปิดปิดสัก 5 วินาที
  • ปล่อยปุ่มเปิดปิดขณะที่กดค้างที่ปุ่มลดเสียง
  • รอสัก 5 วินาที และเครื่องน่าจะเข้าสู่โหมด DFU แล้ว

ขั้นตอนที่ 3: หน้าจอสีดำที่แสดงบนหน้าจอ แปลว่าคุณอยู่ในโหมด DFU แล้ว เมื่ออุปกรณ์เข้าสู่โหมด DFU iTunes จะแจ้งเตือนว่าอุปกรณ์ได้รับการตรวจจับว่าอยู่ในโหมด recovery

ขั้นตอนที่ 4: คลิกที่กู้คืน iPhone จากแท็บสรุป เพื่อยืนยันการกระทำและรอให้ iTunes กู้คืน iPhone ของคุณ

วิธีนี้จะลบข้อมูลของอุปกรณ์ของคุณทั้งหมด ดังนั้นให้ลองใช้วิธีนี้เมื่อคุณสำรองข้อมูลแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียข้อมูลบางส่วนตลอดไปแบบถาวร

restore iPhone

ทางออกที่ 5. แก้ไข iPhone รีสตาร์ทเองบ่อยโดยไม่สูญเสียข้อมูล:

หากว่าคุณมีปัญหาซอฟต์แวร์ และต้องการแก้ไขโดยไม่เสียข้อมูลไป เราขอแนะนำให้ใช้ Tenorshare ReiBoot.ซึ่งเป็นอุปกรณ์แก้ไขระบบ iOS ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทไม่หยุด ค้างที่หน้าโลโก้แอปเปิ้ล หรือปัญหาซอฟต์แวร์ต่างๆ ReiBoot สามารถช่วยคุณแก้ไขได้ในไม่กี่นาที คุณสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ได้ทั้งบน Mac และ Windows เพื่อซ่อมแซมระบบซอฟต์แวร์ทันที

ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่คุณควรทำตาม

ขั้นตอนที่ 1: เปิดโปรแกรม และจากหน้าโฮมอินเทอร์เฟซ คลิกเริ่ม เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับระบบ และแตะที่การซ่อมแซมมาตรฐาน

choose repair operating system mode

ขั้นตอนที่ 2: ซอฟต์แวร์จะขอให้คุณดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์แพ็คเกจที่เข้ากับรุ่นของอุปกรณ์ของคุณ คลิกที่ดาวน์โหลด และรอจนกว่าแพ็คเกจจะดาวน์โหลดเสร็จและได้รับการตรวจสอบ

download firmware

ขั้นตอนที่ 3: คลิกที่เริ่มการซ่อมแซมมาตรฐาน และซอฟต์แวร์จะเริ่มซ่อมแซมอุปกรณ์ของคุณ มันจะใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น

repair iPhone

หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น iPhone จะรีบูตและเริ่มใช้งานได้ตามปกติ หากว่าคุณไม่กังวลเรื่องข้อมูลหาย คุณสามารถเลือกใช้งานโหมดชั้นสูงเพื่อแก้ไขแบบเร็วๆ ดูก็ได้

Part 3. If It Is A Hardware Problem:

หากว่า iPhone 15/14/13/12/11/X ค้างอยู่ที่การรีสตาร์ท และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วย Reiboot ได้ นั่นอาจจะเพราะว่าปัญหาเกิดจากฮาร์ดแวร์ ดังนั้นให้นำอุปกรณ์ของคุณไปยังร้านค้าแอปเปิ้ลที่ใกล้ที่สุดของคุณเพื่อขอเปลี่ยนหรือเข้ารับการซ่อมจะดีกว่า

สรุป:

ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหา iPhone 15/14/13/12/11/X รีสตาร์ทเองแล้ว เราขอแนะนำว่าแทนที่จะทำการแก้ไขแบบชั่วคราว การใช้ Tenorshare ReiBoot ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยซ่อมแซมระบบ iOS ช่วยแก้ไขปัญหานั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อุปกรณ์นี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้มากกว่า 50 ปัญหา และช่วยคุณได้เยอะมากเมื่อคุณเจอปัญหาต่างๆ

  อัปเดตเมื่อ 2023-12-19 / อัพเดทสำหรับ  iPhone Fix

(คลิกให้คะแนนโพสต์นี้)

(0 votes, average: 5.0 out of 5 )

เข้าร่วมการสนทนาและแบ่งปันเสียงของคุณที่นี่