วิธีแก้ Safari ทำงานช้า ไม่สามารถเปิดหน้าเว็บ ได้ใน iPhone หรือ iPad

คุณอาจจะกำลังมองหาวิธีการทำให้ Safari กลับมาใช้งานได้ไวขึ้น? ในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึงสาเหตุที่ทำไม Safari ถึงใช้งานได้ช้าลงใน iPhone 13/12/11/X/8/7/6/6s/5 หรือ iPad Pro/Air/Mini และคำอธิบาย: อยากให้ Safari ทำงานไวขึ้นใน iPhone หรือ iPad หรือเปล่า? มาเรียนรู้วิธีแก้ Safari ทำงานช้า ไม่สามารถเปิดหน้าเว็บได้ใน iPhone หรือ iPad

• ทำไม Safari ถึงทำงานช้าใน iPhone หรือ iPad?
• วิธี 1: ปิดแท็บใน Safari
• วิธี 2: ล้างประวัติ คุกกี้ และข้อมูลใน Safari
• วิธี 3: รีเซ็ตการตั้งค่าเน็ตเวิร์ค
• วิธี 4: แก้ปัญหา Safari ทำงานช้าใน iPhone หรือ iPad ด้วย ReiBoot

ทำไม Safari ถึงทำงานช้าใน iPhone หรือ iPad?

Safari เก็บรายชื่อเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมทั้งหมดเอาไว้ (เว้นแต่คุณจะอยู่ในโหมดการดูเว็บแบบส่วนตัว) และหากว่าคุณใช้งาน Safari เยอะมาก ประวัติของคุณคงจะเยอะมากเช่นกัน เมื่อคุณมีประวัติการค้นหาเยอะใน Safari แปลว่ามันกินพื้นที่การจัดเก็บไปค่อนข้างมาก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความเร็วของเน็ตโดยรวม

วิธี 1: ปิดแท็บใน Safari

หากว่าคุณเปิดแท็บเอาไว้เยอะมากใน Safari แท็บเหล่านี้อาจจะทำให้ Safari ทำงานช้า ดังนั้นโปรดหลีกเลี่ยงการเปิดใช้งานแท็บมากจนเกินไปพร้อมๆ กัน

ใน Safari กดค้างยาวๆ ที่ปุ่มแท็บที่มุมล่างขวา และแตะที่ ปิดแท็บทั้งหมด

วิธี 2: ล้างประวัติ คุกกี้ และข้อมูลใน Safari

ด้วยเวลาการใช้งาน Safari อาจจะมีแคช ประวัติการค้นหา คุกกี้ ต่างๆ สะสมมากเกินไป ข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้การทำงานของ Safari ช้าลงใน iPhone หรือ iPad ของคุณ ดังนั้นการลบข้อมูลเหล่านี้อาจจะช่วยให้ Safari ทำงานได้เร็วขึ้น

ไปยัง การตั้งค่า ไปยัง Safari และแตะที่ "ล้างประวัติและข้อมูลเว็บไซต์"

วิธี 3: รีเซ็ตการตั้งค่าเน็ตเวิร์ค

บางครั้ง เน็ตเวิร์คของคุณก็ส่งผลต่อความเร็วในการใช้งานของ Safari หากว่าคุณพบว่าวิธีข้างต้นใช้งานไม่ได้ผล คุณอาจจะลองรีเซ็ตเน็ตเวิร์คเครือข่ายของคุณดู

ไปยัง การตั้งค่า > ทั่วไป แล้วเลื่อนลงไปที่ด้านล่าง และแตะที่รีเซ็ต ในหน้ารีเซ็ต แตะที่ รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย หรือรีเซ็ตการตั้งค่าเน็ตเวิร์ค

วิธี 4: แก้ปัญหา Safari ทำงานช้าใน iPhone หรือ iPad ด้วย ReiBoot

หากว่าวิธีทั้งหมดที่กล่าวมา คุณลองแล้ว และล้มเหลว และ iPhone หรือ iPad ของคุณยังคงใช้งาน Safari ได้ช้าอยู่ หรือบางครั้งก็หน้าจอค้างด้วย คุณควรซ่อมแซมระบบการทำงานของ iPhone หรือ iPad ของคุณ ด้วย Tenorshare ReiBoot  ซึ่งเป็นอุปกรณ์โปรเฟสชันนอลในการซ่อมแซมระบบการทำงานของ iPhone หรือ iPad โดยไม่ทำให้ข้อมูลของคุณหาย

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง ReiBoot ในคอมพิวเตอร์ของคุณ เปิดใช้งาน เชื่อมต่อเข้ากับ iPhone เลือก "ซ่อมแซมระบบปฏิบัติการ" จากหน้า ReiBoot อินเทอร์เฟซ

ขั้นตอนที่ 2: คลิก "เริ่มซ่อมแซม" และ "ดาวน์โหลด" เพื่อดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์แพ็คเกจ

ขั้นตอนที่ 3: คลิก "เริ่มซ่อมแซม" ในหน้าจอถัดไป รอสักครู่ให้การซ่อมแซมระบบเสร็จสิ้น

สรุป

สำหรับปัญหา Safari ทำงานช้าใน  15/14/13/12/11/X/8/7/6/6s หรือ iPad Pro/Air/Mini คุณสามารถแก้ไขได้โดยการทำตามเคล็ดลับข้างต้นที่เรากล่าวไป ครั้งต่อไปที่คุณใช้งาน Safari คุณคงจะทราบบ้างว่าเพราะอะไรมันจึงทำงานช้า และคุณก็จะสามารถหาทางแก้ Safari ทำงานช้า ไม่สามารถเปิดหน้าเว็บได้ใน iPhone หรือ iPad