6 วิธีที่ดีสุดในการแก้ไขปัญหาไอโฟนค้างหน้าอัพเดท iOS 17.5

ช่วงนี้มีคนคอมเพลนว่า iPhone ค้างหน้าอัพเดท iOS 17.5 เยอะขึ้น ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้เพราะระบบเน็ตเวิร์คไม่เสถียร เซิร์ฟเวอร์ยุ่ง มีที่เก็บเมมโมรีไม่พอ หรืออาจเกิดจากปัญหาซอฟต์แวร์ บางคนถึงขึ้นหัวเสียและหงุดหงิดกับปัญหานี้เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นคนทำอะไรให้เกิดขึ้นเลย โชคดีที่เราได้รวบรวมวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ เอาไว้สำหรับการอัปเดต iOS 17.5 ค้างอยู่ที่ความคืบหน้า และอาจจะช่วยให้คุณติดตั้ง iOS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ทางออกที่1: แก้ไขปัญหา ซอฟต์แวร์อัปเดต iPhone/iPad ค้างอยู่ที่ระหว่างการติดตั้งโดยไม่สูญเสียข้อมูล
• ทางออกที่ 2: ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ไขปัญหา iOS อัปเดตไม่เริ่มติดตั้ง
• ทางออกที่ 3: ใช้การบังคับรีสตาร์ทเพื่อแก้ไขปัญหา iPhone ค้างอยู่ที่หน้าจออัปเดต
• Solution 4. Clean up More Space If iPhone Update Won't Install
• ทางออกที่ 5: ดาวน์โหลดและติดตั้ง iOS 17.5 อัปเดตอีกครั้ง
• ทางออกที่ 6: แก้ไขปัญหา iPhone ค้างอยู่ที่ 'ติดตั้งตอนนี้' โดยใช้โหมดการกู้คืน

ทางออกที่1: แก้ไขปัญหา ซอฟต์แวร์อัปเดต iPhone/iPad ค้างอยู่ที่ระหว่างการติดตั้งโดยไม่สูญเสียข้อมูล

หากคุณยังไม่ได้สำรองข้อมูลอุปกรณ์ของคุณ ให้กู้คืนข้อมูลใน iTunes ก่อนเพื่อแก้ไขปัญหา iOS อัปเดตค้างอยู่ที่การติดตั้งอัปเดตระบบใหม่ เพราะมันจะล้างข้อมูลและไฟล์ที่สำคัญของคุณทั้งหมดไป เราขอแนะนำให้คุณแก้ไขปัญหา iOS 17.5 อัปเดตค้างนี้ด้วยการใช้ Tenorshare ReiBoot. เพราะว่า Tenorshare Reiboot สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหาค้างต่างๆ ในระบบของ iOS ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone ค้าง, กำลังหมุนค้างระหว่างการติดตั้ง iOS,iPhone ติดขัดระหว่างการอัปเดต,iPhone ค้างระหว่างการอัปเดต, และอื่นๆ อีกมากมายด้วย

• หลังจากติดตั้งโปรแกรมนี้แล้ว; เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ค้างอยู่ของคุณเข้ากับคอมพิวเตอร์ และเลือก "เริ่ม" เพื่อเข้าสู่หน้าอินเทอร์เฟซหลัก

  

• เริ่มต้นกระบวนการการซ่อมแซมโดยคลิกที่ "การซ่อมมาตรฐาน"

  

• จากนั้น คลิกที่ "ดาวน์โหลด" เพื่อดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์

  

• เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว โปรแกรมจะซ่อมแซม iOS 17.5 โดยอัตโนมัติ ภายในไม่กี่นามี อุปกรณ์ของคุณจะได้รับการรีบูตกลับสู่ปกติ

  

ReiBoot ไม่เพียงแค่ช่วยเรื่องปัญหาการติดตั้งค้าง และช่วยหยุดปัญหานี้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณอัปเดตไปยังเวอร์ชัน iOS 17.5 ล่าสุดโดยอัตโนมัติอีกด้วย

ทางออกที่ 2: ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ไขปัญหา iOS อัปเดตไม่เริ่มติดตั้ง

หากคุณอัปเดตผ่านอากาศ เช่น iCloud หรือ Wi-Fi และ iOS อัปเดตค้างอยู่ที่หน้าการติดตั้งตอนนี้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเสถียรดีและเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่สัญญาณแรง ระยะเวลาในการติดตั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าความเร็วเครือข่ายของคุณดีแค่ไหน

ทางออกที่ 3: ใช้การบังคับรีสตาร์ทเพื่อแก้ไขปัญหา iPhone ค้างอยู่ที่หน้าจออัปเดต

หากว่าคุณค้างอยู่ที่โหลดดิ้งขณะอัปเดต iOS อยู่ ทางออกอย่างแรกที่เป็นไปได้คือการรีสตาร์ตเครื่องของคุณ การบังคับรีสตาร์ทสามารถช่วยแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องเบื้องต้นต่างๆ ได้ และจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ iPhone ค้างอยู่ที่หน้าระหว่างการติดตั้งได้ด้วย

การบังคับเครื่อง iPhone รีสตาร์ทหรือรีบูตอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นโมเดลของ iPhone

• บน iPhone 8 หรือใหม่กว่า: กดและปล่อยปุ่มเพิ่มระดับเสียงและลดระดับเสียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น
• บน iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus: กดปุ่มด้านข้างและปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

• บน iPhone 6s และรุ่นก่อนหน้า, iPad หรือ iPod touch: กดปุ่มโฮมและปุ่มเปิด/ปิด/พักเครื่อง ค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

  

ทางออกที่ 4. สร้างพื้นที่เพิ่มเติมหาก iPhone อัปเดตติดตั้งไม่ได้

หากว่า iPhone ของคุณไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับการดาวน์โหลดติดตั้ง พื้นที่บนเครื่องของคุณอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการอัปเดต iOS ใหม่และทำให้ซอฟต์แวร์อัปเดตค้างอยู่ที่หน้าการติดตั้ง ดังนั้นหากว่า iPhone ของคุณยังใช้งานได้อยู่ ให้คุณลองตรวจสอบที่พื้นที่เก็บข้อมูล iPhone และสร้างพื้นที่สำหรับการติดตั้งก่อน

• สำหรับอุปกรณ์ iOS 10 ให้ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > พื้นที่จัดเก็บข้อมูลและข้อมูล iCloud > จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

• สำหรับอุปกรณ์ iOS รุ่นใหม่กว่า ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > ที่เก็บข้อมูล iPhone

  

ทางออกที่ 5: ดาวน์โหลดและติดตั้ง iOS 17.5 อัปเดตอีกครั้ง

เมื่อ iOS อัปเดตค้างอยู่ที่หน้าการติดตั้งเป็นเวลานาน ให้ลองดาวน์โหลดและติดตั้งใหม่อีกครั้งดู นี่คือวิธีการลบดาวน์โหลดเก่าและติดตั้งการดาวน์โหลดใหม่อีกครั้ง

• ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ที่เก็บข้อมูล iPhone
• ค้นหาการอัปเดต iOS แล้ววแตะที่ ลบการอัปเดต

• จากนั้นไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > การอัปเดตซอฟต์แวร์ แค่นี้คุณก็สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตใหม่ได้อีกครั้ง

  

ทางออกที่ 6: แก้ไขปัญหา iPhone ค้างอยู่ที่ 'ติดตั้งตอนนี้' โดยใช้โหมดการกู้คืน

ในบางครั้งคุณสามารถแก้ไขปัญหา iPhone ซอฟต์แวร์อัปเดตค้างหรือติดอยู่ที่หน้าการติดตั้งได้อย่างง่ายดาย โดยการไปที่โหมดการกู้คืน และกู้คืนด้วย iTunes แต่ว่าหากคุณเลือกที่จะใช้วิธีนี้ ข้อมูลทั้งหมดบน iPhone ของคุณจะถูกลบทิ้งไป

• เชื่อมต่อ iPhone ของคุณเข้ากับคอมพิวเตอร์ และเปิด iTunes
• เปิด iPhone ของคุณในโหมดการกู้คืน อ่านเกี่ยวกับวิธีทำให้ iPhone เข้าสู่โหมดการกู้คืน
• หลังจากที่ทำให้ iPhone เข้าสู่โหมดการกู้คืนแล้ว iTunes จะตรวจพบ และหน้าต่างป๊อปอัพจะปรากฏขึ้นให้อัปเดตและกู้คืน

• คุณสามารถคลิกที่อัปเดต เพื่อดาวน์โหลด iOS อัปเดตได้ด้วย iTunes เพื่อลองดู หากว่า iOS อัปเดตค้างที่หน้าการติดตั้งอีกครั้ง ให้คุณลองเข้าสู่โหมดการกู้คืนอีกครั้ง และคลิกที่ปุ่มกู้คืนเพื่อลองแก้ไขปัญหาที่ค้างอยู่นี้

  

สรุป

หลังจากที่เราได้กล่าวถึงวิธีการแก้ไขไปข้างต้นแล้ว คุณคงจะเริ่มมองเห็นภาพถึงวิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อ iPhone 13/12/11/XS/X/8/7 ค้างอยู่ที่หน้าจอการติดตั้ง ReiBoot เป็นหนึ่งในวิธีการช่วยแก้ไขปัญหาที่ดีหากว่าไอโฟนค้างหน้าอัพเดทโดยที่คุณจะไม่เสียข้อมูลใดๆ อีกทั้ง หากว่าคุณมีปัญหาอื่นๆ ในการอัปเดต iPhone/iPad เช่นบูตลูป หรือปัญหาแบตเตอรี่ ซอฟต์แวร์ซ่อมแซมระบบ iOS นี้สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหาได้ง่ายๆ ในเพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย: เกี่ยวกับ iPhone อัปเดตค้างที่หน้าการติดตั้ง

1. iOS อัปเดตใช้เวลานานเท่าไหร่?

โดยปกติใช้เวลาประมาณ 3-10 นาทีในการดาวน์โหลด iOS 17.5 และจะใช้เวลาอีกประมาณ 10-20 นาทีในการติดตั้ง iOS 17.5

2. จะทำให้ iOS อัปเดตเร็วขึ้นได้อย่างไร?

เมื่อคุณอัปเดต iPhone ผ่านทางอากาศ กระบวนการจะเสร็จสิ้นเร็วขึ้นหากว่าคุณมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและแข็งแรง และคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่บน iPhone เพียงพอในการติดตั้งด้วย

3. ทำไม iOS อัปเดตของฉันใช้เวลานานมาก?

ในบางครั้ง iOS อัปเดตอาจจะใช้เวลานาน หรืออาจจะไม่เริ่มต้นการอัปเดตเลย สิ่งนี้อาจเกิดจาก:

• การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เสียหายหรือไม่สมบูรณ์
• มีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับการติดตั้งในเครื่องของคุณ
• ไม่สามารถเข้าถึงอัปเดตเซิร์ฟเวอร์ได้
• ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณช้า