วิธีใช้ ReiBoot ในการอัปเกรด macOS

Tenorshare ReiBoot ช่วยให้อัปเกรด macOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทำให้ข้อมูลสูญหาย ใช้โซลูชันที่สะดวกและปลอดภัยนี้ เพื่อให้ Mac ของคุณทันสมัยและทำงานได้อย่างราบรื่น

ไม่ว่าคุณต้องการอัปเดต macOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด หรือย้อนกลับเป็นเวอร์ชันก่อนหน้าเนื่องจากปัญหาความเข้ากันได้ ReiBoot ช่วยให้คุณทำได้อย่างง่ายดาย ประหยัดเวลา และไม่ยุ่งยาก เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถอัปเกรด macOS ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลสูญหาย

ในคู่มือนี้จะแนะนำวิธีการอัปเดตอุปกรณ์ Mac ของคุณ โดยคุณต้องดาวน์โหลดและติดตั้ง ReiBoot บนคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วจึงทำตามขั้นตอนด้านล่าง

ด้วย ReiBoot คุณสามารถมั่นใจได้ว่า Mac ของคุณจะได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้อย่างง่ายดาย โดยไม่เสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูลหรือระบบเสียหาย คู่มือนี้จะพาคุณอัปเดต macOS ได้อย่างไม่มีสะดุด

ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่อ Mac ทั้งสองเครื่อง หรือ Mac กับ Windows

เปิดโปรแกรม ReiBoot บนคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วเชื่อมต่อ Mac ทั้งสองเครื่อง หรือ Mac กับ Windows ให้เรียบร้อย เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้ว ให้คลิก “More Features” ที่เมนูด้านซ้าย จากนั้นเลือก "macOS Upgrade/Downgrade"

อัปเกรด macOS ด้วย ReiBoot

ขั้นตอนที่ 2 เลือกโหมดการอัปเกรดระบบ

ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันทดลองหรือเวอร์ชันเต็ม ให้เลือกโหมด “Upgrading” จากนั้นคลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดำเนินการต่อ

อัปเกรด macOS ด้วย ReiBoot

ขั้นตอนที่ 3 เข้าสู่โหมด DFU

ทำตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อเข้าสู่โหมด DFU ของ Mac วิธีการจะแตกต่างกันไปตามรุ่น โปรดเลือกให้ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ

อัปเกรด macOS ด้วย ReiBoot

ขั้นตอนที่ 4 ดาวน์โหลดไฟล์เฟิร์มแวร์

ReiBoot จะตรวจสอบเวอร์ชัน macOS ของคุณโดยอัตโนมัติ และแสดงเฟิร์มแวร์ที่สามารถอัปเกรดได้ ให้คลิก “Download” เพื่อเริ่มดาวน์โหลดแพ็กเกจ

อัปเกรด macOS ด้วย ReiBoot
  • หากไม่สามารถดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ได้ ให้คลิก ‘click here’ เพื่อดาวน์โหลดผ่านเบราว์เซอร์
  • หากคุณมีไฟล์เฟิร์มแวร์อยู่ในคอมพิวเตอร์แล้ว ให้คลิก "import local file" เพื่ออัปโหลดไฟล์ด้วยตนเอง

การดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์อาจใช้เวลาหลายนาที ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ต

อัปเกรด macOS ด้วย ReiBoot

หมายเหตุ:

1. ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้คืน IPSW ที่ไม่ได้ลงนามด้วย ReiBoot ได้ หากเวอร์ชัน macOS ไม่รองรับการอัปเกรด โปรแกรมจะแจ้งว่าไม่พบเฟิร์มแวร์ที่สามารถอัปเกรดได้

โหมดเปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

2. คุณสามารถเข้าไปที่ เว็บไซต์ IPSW เพื่อตรวจสอบว่า Apple กำลังลงนามเฟิร์มแวร์ตัวใดอยู่

ขั้นตอนที่ 5 เริ่มต้นการอัปเกรดระบบ

เมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจเฟิร์มแวร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิก ‘Initiating Upgrade’ เพื่อเริ่มอัปเดตระบบ macOS

เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

การเริ่มอัปเกรดจะไม่ลบข้อมูลของคุณ หากยืนยันแล้ว ให้คลิกปุ่ม “Continue” เพื่อดำเนินการต่อ

เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

ขั้นตอนที่ 6 กำลังอัปเกรดระบบ

โปรแกรมจะเริ่มทำการอัปเดตระบบ macOS โปรดอย่าถอดอุปกรณ์ออกระหว่างกระบวนการอัปเกรด

เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

เมื่อการอัปเกรดเสร็จสมบูรณ์ คุณจะเห็นหน้าจอแสดงความสำเร็จ และเครื่อง Mac ของคุณจะเป็นเวอร์ชันล่าสุด

เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

หมายเหตุ:

หาก Mac ของคุณมีชิป Apple T2 ก่อนจะซ่อมหรืออัปเกรดเสร็จสมบูรณ์ คุณต้องทำตามขั้นตอนด้านล่างอย่างละเอียด

เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo
เปลี่ยนตำแหน่งบน iAnyGo

หลังจากทำตามขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม "Done" เพื่อยืนยันว่า Mac ที่มีชิป Apple T2 ของคุณอัปเกรดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

change location mode on ianygo

หน้านี้มีประโยชน์หรือไม่?

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ข้อมูลนี้จะช่วยให้เราปรับปรุงเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น

ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่หรือไม่?

หากคุณยังมีคำถาม สามารถติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้เลย เราจะตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมงในวันทำการ

ติดต่อฝ่ายสนับสนุน
guide robot